มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์
Foundation for AIDS Rights THAILAND
1.) เข้าใจผิดว่า “แพร่เชื้อง่าย”
เชื้อไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus) สาเหตุของการทำลายระบบภูมิคุ้มกันและทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์ ไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือนที่หลายคนเข้าใจ ปัจจุบันมียารักษาที่สามารถควบคุมการแพร่กระจายเชื้อไวรัสชนิดนี้ หากผู้ป่วยทานยาต้านไวรัสเสมอ กระทั่งตรวจไม่พบเชื้อในเลือด นั่นหมายความว่าจะไม่มีโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
สำหรับโรคเอดส์ หรือ ระยะภูมิคุ้มกันบกพร่องหลังติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยสามารถทานยารักษาอาการแทรกซ้อนที่ต่างกันไปในแต่ละคน
2.) เข้าใจผิดว่า “มีทางเลือกในการประกอบอาชีพน้อย”
เมื่อหลายคนเข้าใจผิดว่า เชื้อไวรัส HIV สามารถติดต่อกันได้ง่ายผ่านสารคัดหลั่ง หรือเหงื่อ จึงทำให้ผู้ป่วยถูกตีตรา และปิดกั้นโอกาสในการทำงานของพวกเขา เช่น ร้านอาหาร โรงแรม หรืองานที่ต้องให้บริการใกล้ชิดผู้คนอย่างพนักงานเสิร์ฟ
สำหรับในประเทศไทย ยังมีองค์กรที่บังคับตรวจเชื้อ HIV เพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณารับเข้าทำงาน ปะปนอยู่กับองค์กรที่ทำความเข้าใจแล้วว่า มีทางออกสำหรับผู้ป่วยเสมอโดยไม่จำเป็นต้องกีดกันคนทำงาน
3.) เข้าใจผิดว่า “บวชไม่ได้”
ถ้าครั้งหนึ่งโลกเคยเข้าใจว่าโรคเอดส์เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ไม่มียาต้าน หากผู้ป่วยจะถูกห้ามปรามไม่ให้บวชอาจนับเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ตอนนี้เมื่อเราเข้าใจเชื้อไวรัส HIV มากขึ้น โลกมีวิธีรักษาและยาต้านไวรัส นอกจากวัดธรรมรักษ์นิเวศน์ สาขาของวัดพระบาทน้ำพุที่ประกาศชัดว่าต้อนรับผู้ป่วยโรคนี้ การบวชในวัดแห่งอื่นก็ยังคงคลุมเครือ และหลายแห่งเลือกจะกีดกันผู้ป่วยไว้ก่อน
4.) เข้าใจผิดว่า “ไม่สามารถมีลูกได้”
จากข้อมูลทางการแพทย์และสถิติการรักษาตลอดหลายปีมานี้ยืนยันแล้วว่า ยาต้านไวรัสสามารถยับยั้งการถ่ายทอดเชื้อ HIV จากพ่อแม่สู่ลูกได้
เมื่อผู้ป่วยทานยาอย่างมีวินัย การแบ่งตัวของเชื้อไวรัสจะถูกควบคุมเอาไว้ไม่ให้เพิ่มจำนวน เมื่อปริมาณของเชื้อไวรัสลดลง จนตรวจวัดจากเลือดไม่ได้ ก็จะไม่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ลูก หากคุณเป็นผู้ป่วยติดเชื้อและอยากมีลูก คุณสามารถเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อคอยตรวจเช็คปริมาณเชื้อไวรัส และวางแผนอนาคตได้
5.) เข้าใจผิดว่า “ผู้ป่วยต้องใช้ชีวิตแตกต่างจากคนทั่วไป”
เมื่อคุณติดเชื้อ HIV คุณอาจรู้สึกว่ามันไม่ได้ต่างจากการเป็นเบาหวาน หรือความดัน เพราะหากดูแลรักษาสุขภาพและทานยาก็สามารถควบคุมหรือบรรเทาอาการของโรค
ถ้าจะมีอะไรที่ต่างจากคนทั่วไป ก็น่าจะเพราะผู้ติดเชื้อ HIV มักถูกตีตราและผลักออกจากโอกาสในการประกอบอาชีพ การมีครอบครัว การร่วมกิจกรรมกับคนในสังคม รวมทั้งถูกเหยียดเพศหากผู้ติดเชื้อเป็น LGBTQ+
คงไม่มีใครอยากเจ็บป่วยไม่ว่าโรคไหน การเปิดใจรับรู้ว่าการแพทย์ถูกพัฒนาไปไกลและมีความเห็นอกเห็นใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ น่าจะเป็นทางออกที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่นทั่วไปในสังคม